วิธีสตาร์ทรถแบตหมด

73 Views  | 

วิธีสตาร์ทรถแบตหมด

วิธีสตาร์ทรถแบตเตอรี่หมด?
คุณคือหนึ่งในนั้นใช้ไหม? ที่กำลังมีปัญหาเรื่องรถยนต์สตาร์ทไม่ติด การที่รถยนต์ของเราสตาร์ทไม่ติดเกิดขึ้นจากหลายสาหตุ อย่างเช่น มอเตอร์สตาร์ทเสื่อม ระบบไฟของรถมีปัญหา หรือปัญหาอื่นๆ แต่ในกรณีนี้เรากำลังจะพูดถึง รถยนต์ของเราไฟแบตเตอรี่หมด โดยแบตเตอรี่หมดนั้นเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ลืมเปิดไฟในรถทิ้งไว้ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไม่เก็บไฟ ไฟลงกราวน์ หรือ จอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้มีวิธีจะทำให้รถของเราสตาร์ทติดหรือเปล่านะ

เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัย และเคยเห็นคลิปที่มีการแชร์กันอย่างกว้างขวาง คลิปการต่อไฟตรงเพื่อสตาร์ทรถโดยการปลดสายไดร์สตาร์ทนำมาจิ้มที่แบตเตอรี่ แล้วทำให้รถสตาร์ทติด สิ่งที่ท่านเห็นนั้นทำได้ไม่จริงกับรถยนต์ที่ไฟแบตเตอรี่หมด ซึ่งจะทำได้ในกรณีที่แบตเตอรี่ของเรายังมีกำลังสตาร์ทอยู่ครับ และการทำแบบนั้นผมแนะนำว่าไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้ระบบเกิดความเสียหายเนื่องจากการช๊อต และมีผู้เชียวชาญหลายท่านออกมาย้ำแล้วนะครับว่า ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟหมดควรทำอย่างไร?
จากกรณีแบตเตอรี่รถยนต์ของเราไฟหมดจากสาเหตุที่กล่าวมาในข้างต้น จะมีวิธีสตาร์ทรถแบตหมดได้จริงหรือไม่ ผมสรุปให้ฟังง่ายๆ ถ้าแบตเตอรี่ไฟหมด รวมไปถึงกรณีไฟอ่อน รถยนต์ของเราจะไม่สามารถจะสตาร์ทติดขึ้นมาด้วยตนเอง
ได้ครับ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือในการสตาร์ทรถยนต์ อย่างเช่น อุปกรณ์จั๊มสตาร์ท การขอความช่วยเหลือการพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่น หรือ การเรียกใช้บริการจั๊มแบตเตอรี่ฉุกเฉินจากทางร้านของเราก็เป็นอีกหนี่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ

 

สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังจากรถสตาร์ทติด?
1. ห้ามดับเครื่องยนต์ ในขณะที่ยังไม่ถึงจุดหมายโดยเด็ดขาด ถ้าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อีก
2. ในกรณีที่แบตเตอรี่รี่ใหม่คุณภาพยังดีอยู่ ควรขับรถอย่างน้อย 45 นาที เพื่อให้ไดร์ชาร์จสามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ให้เต็ม
3. การสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ หรือการเดินเบาเครื่องยนต์ ไม่สามารถอัดประจุไฟให้เต็มแบตเตอรี่รถยนต์ของเราได้ พูดง่ายๆ ก็คือ การสตาร์ทรถทิ้งไว้แทบไม่ช่วยอะไร!
4. ถ้าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ จอดทิ้งไว้นาน 6-8 ชม. ก็จะพบอาการสตาร์ทไม่ติด
5. ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพมาก เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงก็อาจจะมีอาการ "รถสตาร์ทไม่ติด"
6. ให้รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์โดยทันที เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้ง ที่ไหน! เมื่อไหร่! ก็ได้


พ่วงแบตเตอรี่ไม่ติดเนื่องจาก?
1. สายพ่วงไม่ได้มาตรฐาน เช่น สายเล็ก หรือ สายใหญ่แต่เส้นสายทองแดงน้อย
2. แบตเตอรี่ด้านเสื่อมคุณภาพอย่างหนัก มักจะเกิดขึ้นกับกรณีรถที่จอดทิ้งไว้นานๆ
3. มอเตอร์สตาร์ตหรือไดสตาร์ตเสื่อม
4. ไดชาร์จเสีย
5. ระบบไฟฟ้ามีปัญหา 
6. ปั๊มติ๊กเสีย


แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ไฟหมด ไม่เก็บไฟ?

โดย GS BATTERY ให้ข้อมูลว่า แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ลักษณะการใช้งานรถยนต์ของแต่ละบุคคล ใช้งานหนักมากจนเกินไป ใช้งานน้อยจนเกินไป การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน สภาพอากาศ รวมทั้งการดูแลรักษาแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลน้ำกลั่น หรือการทำความสะอาดแบตเตอรี่ไม่ให้มีคราบขี้เกลือ!

ซึ่งนอกจากเรื่องใช้การงานแล้ว ในปัจจุบันรถยนต์สมัยใหม่มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบฝาท้ายไฟฟ้า กล้องติดรถรูปแบบ Parking Mode หรือการปรับแต่งเครื่องเสียง เป็นต้น ทำให้ในขณะที่รถยนต์ดับ ระบบเหล่านี้จะดึงไฟจากแบตเตอรี่ไปเลี้ยงโดยตรง ซึ่งจะทำให้แบตเตอรีทำงานหนักมาก และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไฟหมด และแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้น

แนะนำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่?
สำหรับรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาระยะนึง หรือ รถของเรามีอายุมากขึ้น
หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทางร้านแนะนำว่าท่านสามารถเลือกแบตเตอรี่ที่มีกำลังแอมป์สูงกว่ามาตรฐานของรถยนต์เล็กน้อย เนื่องจากเมื่ออายุการใช้งานรถยนต์มากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ ในรถยนต์ เช่น สายไฟ หรือไดชาร์จ อาจเสื่อมสภาพ และนำกระแสไฟฟ้าได้ลดลง ดังนั้น การเพิ่มแอมป์สูงกว่ามาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกิดการจ่ายกระแสไฟไม่เพียงพอนั่นเองครับ
เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่เรียบร้อยแล้ว ทางร้าน FASTBATT มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ของเราให้ใช้งานได้นานขึ้น ไม่มากก็น้อย ดังนี้
1. แบตเตอรี่ใช้งานหนักต่อเนื่องมากกว่า 100 กม./วัน เป็นระยะเวลานาน แบตเตอรี่ประเภทที่ต้องดูแลน้ำกลั่นควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเสมอ
2. สำหรับรถสายจอด การจอดรถทิ้งไว้ 3-7 วันขึ้นไปเป็นประจำ ต้องหมั่นสตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที/สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ไฟเข้าแบตเตอรี่ และลดความเสี่ยงที่แบตเตอรี่เสื่อมไวกว่าที่ควร หากมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้นานเกิน 1 สัปดาห์ ควรนำรถออกวิ่งประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้กระตุ้นแบตเตอรี่ได้รับการชาร์ตไฟ
4. หากมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ 1-2 เดือนขึ้นไป ควรตรวจสอบระดับไฟในแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน หรือถอดแบตเตอรี่แล้วนำไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญกระตุ้นไฟเข้าแบตเตอรี่ก่อนใช้งาน เพื่อลดความเสี่ยงแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวกว่าที่ควร
5. หากหมั่นตรวจสอบ ดูแลแบตเตอรี่ดีแล้ว หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ แต่ยังเกิดปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติด อาจสันนิษฐานได้เบื้องต้นว่าเกิดจากสาเหตุอื่นเช่น ไดชาร์จ ไดสตาร์ท หรือไฟรั่ว เป็นต้น
บริการพ่วงแบต จั๊มแบตรถยนต์ ฉุกเฉิน นอกสถานที่ 24 ชั่วโมง 089 141 5001
บริการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จั๊มแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่รถยนต์หมดฉุกเฉินนอกสถานที่ ในกรณีที่ลูกค้าลืมเปิดไฟทิ้งใว้, จอดรถทิ้งใว้นานๆ หรือ ในกรณีที่แบตหมด หรือ แบตเสื่อมกระทันหัน เราบริการจั๊มแบตเตอรี่รถยนต์ฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ให้บริการนอกสถานที่ทั้งในกรุงเทพ และปริมณฑล(ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากสถานการณ์โควิด 2019 ทางร้านของดบริการในส่วนของ ปริมณฑล และค่าบริการตามระยะทาง (งดให้บริการ 24 ชม. เวลาให้บริการ 9.00-18.00 น.) รวมไปถึงการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ฉุกเฉินนอกสถานที่โดยช่างผู้ชำนาญงาน บริการแบตด่วน ภายใน 30 นาที ระยะบริการ 10 กม. 

การให้บริการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จั๊มแบตเตอรี่รถยนต์ ฉุกเฉินนอกสถานที่ด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ทันสมัย เครื่องจั๊มสตาร์ทแบบพกพา กำลังไฟสูง รวดเร็วคล่องตัว ใช้ได้ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล จั๊มสตาร์ทของเรามีกำลังสตาร์ทเครื่องยนต์สูงถึง 3000 cc. จึงทำให้การพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ จั๊มแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ยุ่งยากเหมือนในอดีตครับ

Powered by MakeWebEasy.com
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy